top of page

พีวีซีวอเตอร์สต๊อป

PVC Waterstop

waterstop
waterstop
waterstop

RHINOSTOP PVC Waterstop เป็นแผ่นกันน้ำพีวีซี ผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ตามมาตรฐาน มีความทนทานและให้คุณสมบัติทางกายภาพที่ดีกว่าวัสดุชนิดอื่น จึงได้รับการยอมรับกันโดยทั่วไปสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เช่น ชั้นใต้ดิน บ่อน้ำ บ่อลิฟท์ สระว่ายน้ำ ชั้นดาดฟ้า เป็นต้น

  วอเตอร์สต๊อป เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างคอนกรีต, เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลว (เช่นน้ำ) ไหลซึมผ่านรอยต่อระหว่างคอนกรีต

 

RHINOSTOP "แบบ A” ที่มีรูตรงกลาง

RHINOSTOP "แบบ B” แบบไม่มีรูตรงกลาง

RHINOSTOP “แบบ C”  เพิ่มริบ มีรูตรงกลางช่วยในการยึดเกาะกับคอนกรีต

RHINOSTOP "แบบ D” เพิ่มริบ ตรงกลางเป็นรอยหยักช่วยในการยึดเกาะกับคอนกรีต

RHINOSTOP "แบบ R”  Rear Guard แบบวางพื้น สำหรับรอยต่อระหว่างพื้นกับพื้นด้วยกัน

RHINOSTOP "แบบ S” รูปทรงพิเศษออกแบบสำหรับการใช้งานเฉพาะ

Waterstop

ทำไมต้องเป็นพีวีซีวอเตอร์สต๊อป?

Why PVC Waterstop?

ทำไมวอเตอร์สต๊อปต้องเป็น พีวีซี หรือ Polyvinylchloride?

ในงานสร้างบ่อ, สระว่ายน้ำ หรืองานก่อสร้างใดๆ ก็แล้วแต่เราไม่ใด้ใช้งานสิ่งก่อสร้างนั้นแค่ระยะเวลาสั้นๆ 1 ปี หรือ 2 ปี แต่เราใช้งานสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นเป็นเวลานานอาจจะ 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี หรือมากกว่านั้น

ดังนั้น วัสดุที่เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างเหล่านี้ก็ควรจะมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว

"วอเตอร์สต๊อปก็เช่นกัน"

วอเตอร์สต๊อป(waterstop)  ในประเทศไทย มักจะถูกผลิตจากวัสดุหลายชนิด ที่สำคัญ(แต่ไม่ควรจะจดจำ) คือ ยางพารา ด้วยเป็นวัสดุที่ราคาถูก หาง่าย (และรัฐบาลส่งเสริมให้ใช้) เป็นเหตุให้ วอเตอร์สต๊อปถูกเรียกกันอย่างแพร่หลายว่า ยางกันซึม ซึ่งที่ถูกต้องแล้ว วอเตอร์สต๊อปที่ใช้งานได้จริง ไม่ควรถูกผลิตจากยางพาราแน่ๆ เพราะวัสดุชนิดนี้ มันจะค่อยๆเปื่อย และยุ่ย ในเวลาไม่เกิน 1 ปี แม้ว่ามันจะอยู่ในคอนกรีตก็ตาม

(แม้ว่าบางครั้งผู้เชี่ยวชาญด้านยางพาราบางคนอาจเถียงว่าถ้าทำยางพาราให้ Curing แล้วมันจะแข็งแรงและทนทาน แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น

1. ยางพาราที่นำมาผลิตเป็นวอเตอร์สต๊อปไม่ได้ผ่านกรรมวิธีการ Curing

2. แม้ว่าจะ Curing ทำให้คุณสมบัติด้านความแข็งแรงในตอนแรกๆนั้นดี แต่ มันก็ยังเปื่อยและเสื่อมคุณสมบัติอยู่ดี)

ดังนั้น วอเตอร์สต๊อปที่สามารถใช้งานได้จริงต้องถูกผลิตจากวัสดุที่เป็นพลาสติกเท่านั้น 

พีวีซี หรือ โพลิไวนิลคลอไรด์ คือ วัสดุที่เหมาะสมที่สุด ทั้งด้านคุณสมบัติและราคา

คุณสมบัติของพีวีซีวอเตอร์สต๊อป แน่นอนที่สุด มันเป็นพลาสติก ดังนั้น มันจะไม่เปื่อยและยุ่ยในเวลาอันสั้น(หากแต่มันจะอยู่คู่โลกไปนานเท่านาน)

นอกจากนั้น PVC ยังสามารถทนสารเคมีได้หลายชนิด ดังข้อมูลจาก 
Link TR-19/2007 Chemical Resistance ofThermoplastics Piping Materials, Plastics Pipe Institute, https://plasticpipe.org
(ดูคุณสมบัติของ PVC สามารถทนต่อสารเคมีต่างๆ ที่ช่อง PVC ใน หน้า 9 และ ความหมายของ Code ต่างๆที่หน้า 7 )

เพิ่มเติม คำแปล Code ในหน้าที่ 7 เป็นภาษาไทย เนื่องจากมีลูกค้าสอบถามกันมาเยอะ
 

140 หมายถึง ประเภทพลาสติกโดยทั่วไปจะทน ถึงอุณหภูมิ 140°F (60 °C)  ผลเมื่อสัมผัสกับสารเคมีมีอาการบวม <3% หรือลดน้ำหนัก <0.5%
และการยืดเมื่อขาด(Elongation at Break) ไม่ได้การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

R to 73 หมายถึง ประเภทพลาสติกโดยทั่วไปจะทน ถึงอุณหภูมิ 73 °F (ประมาณ 22.78°C) อาจมีข้อจำกัดของความต้านทานเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ผลเมื่อสัมผัสกับสารเคมีมีอาการบวม <3% หรือน้ำหนักลด <0.5% และการยืดเมื่อขาด(Elongation at Break) ไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

C to 73 หมายถึง ประเภทพลาสติกมีความต้านทานที่จำกัดที่อุณหภูมิ 73 °F(ประมาณ 22.78° F) ผลเมื่อสัมผัสกับสารเคมีมีอาการบวม 3-8% หรือน้ำหนักลด 0.5-5%
และ / หรือการยืดตัวที่จุดขาด(Elongation at Break) ลดลง  <50%

 

N  หมายถึง พลาสติก ไม่ทนต่อสารเคมีนี้ ผลเมื่อสัมผัสกับสารเคมีมี อาการบวม> 8% หรือลดน้ำหนัก> 5%
และ / หรือการยืดตัวที่จุดขาด (Elongation at Break) ลดลง > 50%

- หมายถึง ไม่มีข้อมูล 

ตัวอย่างสารเคมีที่ PVC สามารถทนได้อย่างดีเยี่ยมได้แก่

Acetic Acid CH3 COOH 

Castor Oil (น้ำมันละหุ่ง)

Coconut Oil (น้ำมันมะพร้าว)

Crude Oil (น้ำมันดิบ)

Diesel Fuels 

Gasoline, Leaded*

Gasoline, Unleaded*

Etc. 

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ทีมวิศวกร

บริษัท ไทยวอเตอร์สต๊อป จำกัด

Line ID: @waterstop

bottom of page